top of page

ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้

อัปเดตเมื่อ 1 ต.ค.

ree

โดย เนธาน บูเซนิตซ์ (Nathan Busenitz)


ผมอยากพิจารณาพระคัมภีร์ข้อหนึ่งในพันธสัญญาใหม่ซึ่งคนรู้จักและนำมาอ้างอิงกันมากที่สุด ที่จริงแล้วนี่เป็นหนึ่งในข้อพระคัมภีร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวัฒนธรรมอีวานเจลิคัลของอเมริกาในปัจจุบัน


พระคัมภีร์ข้อนี้ถูกนำไปพิมพ์บนโปสเตอร์และงานศิลปะแขวนผนังเพื่อเป็นกำลังใจ หากค้นในอินเทอร์เน็ตก็จะพบว่า เราสามารถซื้อพวงกุญแจ แหวน กระดุม เสื้อยืด สติกเกอร์ โปสการ์ด สร้อยข้อมือ กระเป๋าถือ และของที่ระลึกแบบคริสเตียนอื่นๆ ที่มีถ้อยคำจากพระคัมภีร์ข้อนี้ติดอยู่ พระคัมภีร์ข้อนี้โด่งดังในหมู่แฟนฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัยเมื่อสองสามปีที่แล้ว เมื่อมีควอเตอร์แบ็กระดับแชมป์คนหนึ่งเขียนพระคัมภีร์ข้อนี้ไว้บนแถบลดแสงสะท้อนที่ใต้ตาของเขา


แต่สิ่งที่ย้อนแย้งก็คือ คนส่วนใหญ่นำพระคัมภีร์ข้อนี้ออกจากบริบท หลายคนกลับทำให้ข้อนี้มีหมายความตรงกันข้าม ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ข้อนี้หมายถึงจริงๆ พวกเขาเปลี่ยนให้พระคัมภีร์ข้อนี้กลายเป็นสโลแกนของการเสริมสร้างพลังตัวเอง หลายคนใช้ประกาศความสำเร็จและความทะเยอทะยาน พระคัมภีร์ข้อนี้ถูกลดทอนให้กลายเป็นแค่คำขวัญสร้างแรงจูงใจแบบหนึ่งสำหรับความมั่งคั่งทางวัตถุ ความก้าวหน้าในอาชีพการงาน หรือความสำเร็จทางกีฬา


แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย


นี่คือข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับความพึงพอใจ ไม่ใช่เรื่องการทำให้ความฝันของคุณเป็นจริงหรือทำให้เป้าหมายของคุณสำเร็จ


ตอนนี้คุณคงเดาออกแล้วว่า ข้อพระคัมภีร์ที่ผมกำลังพูดถึงคือฟีลิปปี 4:13 ที่นั่นอาจารย์เปาโลเขียนว่า "ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า" 


หากเราอ่านฟีลิปปี 4:13 แค่ข้อเดียวโดยไม่ดูบริบท ก็พอเข้าใจได้ว่า ทำไมหลายคนถึงใช้ข้อนี้เป็นการประกาศเรื่องการเสริมสร้างให้พลังกับตนเอง


เมื่อออกจากบริบท คำว่า "ทุกสิ่ง" ดูเหมือนจะหมายถึงอะไรก็ตามที่คนนั้นอยากจะทำให้สำเร็จ ตั้งแต่การชนะการแข่งฟุตบอลไปจนถึงการลดน้ำหนัก การหางานใหม่ หรือการสะสมความมั่งคั่ง เมื่อออกจากบริบท คำนี้มักถูกใช้เหมือนการกระตุ้นจิตใจด้านจิตวิญญาณที่สามารถนำไปใช้กับความทะเยอทะยานหรือความปรารถนาใดๆ ในชีวิตก็ได้


แต่ในบริบท พระคัมภีร์ข้อนี้มีความหมายเฉพาะเจาะจงที่ชัดเจนมาก และนั่นก็เป็นสิ่งที่คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่อยากได้ยิน แต่เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเรา ในฐานะผู้เชื่อที่จะต้องจดจำไว้


เมื่อออกจากบริบท ฟีลิปปี 4:13 ถูกใช้เป็นเหมือนแก้วสารพัดนึกตามใจปรารถนา แต่ในบริบท นี่คือข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับความพึงพอใจ ไม่ใช่เรื่องการทำให้ความฝันของคุณเป็นจริงหรือทำให้เป้าหมายของคุณสำเร็จ แต่เป็นเรื่องการมีความสุข ความพึงพอใจ และความมั่นคงแม้เมื่อชีวิตจะหนักหนาและสถานการณ์ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้


คุณเห็นไหมว่า ฟีลิปปี 4:13 นี้ไม่ใช่เรื่องการชนะการแข่งฟุตบอล แต่เป็นเรื่องที่ว่า คุณตอบสนองอย่างไรเมื่อคุณแพ้ฟุตบอล หรือได้รับบาดเจ็บทั้งฤดูกาล หรือไม่ได้ถูกคัดเข้าทีมเลย นี่ไม่ใช่เรื่องการได้งานใหม่ บ้านใหม่ หรือชุดใหม่ แต่เป็นเรื่องการแสวงหาความพึงพอใจในงานที่คุณมีอยู่แล้ว ในบ้านที่คุณเป็นเจ้าของอยู่แล้ว และในเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในตู้ของคุณอยู่แล้ว


นี่ไม่ใช่ข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการได้รับการเสริมพลังเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของคุณ แต่เป็นข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการพึ่งพาฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เพื่อให้คุณพึงพอใจกับสถานการณ์ที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้


ลองพิจารณาบริบทของฟีลิปปี 4:13 สักครู่ ในการเขียนถึงผู้เชื่อในเมืองฟีลิปปี เปาโลกล่าวว่า

ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งนักเนื่องจากในที่สุดพวกท่านก็กลับมาห่วงใยข้าพเจ้าอีกครั้ง อันที่จริงท่านห่วงใยข้าพเจ้ามาตลอด แต่ไม่มีโอกาสที่จะแสดงออก  ข้าพเจ้าพูดอย่างนี้ไม่ใช่เพราะกำลังขัดสน เพราะข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่ตนมีไม่ว่าสภาพการณ์จะเป็นเช่นไร ข้าพเจ้ารู้ว่ายามขาดแคลนเป็นอย่างไร และรู้ว่ายามมีเหลือเฟือเป็นอย่างไร ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะพอใจกับสิ่งที่ตนมีในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะอิ่มหนำหรือหิวโหย มั่งมีหรือขัดสน ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า

คุณเห็นแล้วว่า เมื่ออาจารย์เปาโลกล่าวว่า ข้าพเจ้าทำได้ทุกสิ่งโดยพระองค์ผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า เขากำลังพูดเกี่ยวกับความพึงพอใจ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด เขาได้เรียนรู้ที่จะพึงพอใจเสมอ โดยการพึ่งพาพระคริสต์ผู้ประทานกำลังให้เขาอดทนได้ในสถานการณ์เหล่านั้น


และนั่นเป็นมุมมองที่เราถูกเรียกให้ทำตาม ที่จริงแล้ว ก่อนหน้าข้อที่อ้างมาข้างต้น เปาโลเขียนในข้อ 9 ว่า

ทุกสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้ ได้รับ ได้ยินจากข้าพเจ้า หรือได้เห็นจากข้าพเจ้า จงนำไปปฏิบัติและพระเจ้าแห่งสันติสุขจะสถิตกับท่าน

ผู้เขียน

นาธาน บูเซนิตซ์ (Nathan Busenitz) ดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายบริหารและคณบดีฝ่ายคณาจารย์ของ The Master's Seminary นอกจากนี้ ท่านยังเป็นหนึ่งในศิษยาภิบาลของกลุ่มสามัคคีธรรม Cornerstone ที่คริสตจักรเกรซคอมมูนิตี้


Copyright: บทความเรื่อง "ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้" โดย "นาธาน บูเซนิทซ์" ต้นฉบับเผยแพร่เป็นภาษาไทยโดย เกรซ บรรณสาร ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.Gracebannasan.com


Original Article in English can be found at: https://blog.tms.edu/i-can-do-all-things

 
 
 

ความคิดเห็น


What's New

ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับหนังสือใหม่, การประชุม, และสินค้าอื่นๆ!

ขอบคุณ

เวลาทำการ

วันจันทร์ - วันศุกร์:  8:00 - 17:00

​​วันเสาร์ : 8:00 - 12:00

​วันอาทิตย์: ปิด

ติดต่อเรา

พระคริสตธรรมเกรซ

บ้านเลขที่ 10 หมู่ 1

ต.ตลาดใหญ่ อ.ดอยสะเก็ด

จ.เชียงใหม่ 50220

gracebannasan@gmail.com

092-258-1033

© 2022 by Grace Bannasan

a project of the Sovereign Grace Baptist Foundation in Thailand

bottom of page