พระเจ้าผู้ทรงอำนาจอธิปไตยสูงสุดและดีงาม ยอมให้เกิดความทุกข์ทรมานได้อย่างไร?
- Grace Bannasan

- 17 ก.ย.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 1 ต.ค.

โดย เจอรอด กิลเชอร์ (Jerod Gilcher)
อำนาจอธิปไตยของพระเจ้าเป็นความจริงที่เข้าใจได้ยาก การยอมรับความจริงที่ว่าพระเจ้าได้ทรงกำหนดและจัดการทุกช่วงเวลาในชีวิตของเรา รวมทั้งช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน เป็นเรื่องที่ยากมาก เมื่อเราคิดถึงอำนาจอธิปไตยของพระเจ้า เรามักจะคิดว่ามนุษย์ไม่มีความรับผิดชอบหรือมีหน้าที่ใดเลย แต่พระคัมภีร์ไม่ยอมให้เราคิดแบบนั้น (โรม 9:19-20) แล้วเรื่องนี้เป็นอย่างไรหละ? พระคัมภีร์พูดชัดว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงยอมให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นแบบเฉยๆ แต่ทรงกำหนดสิ่งเหล่านั้นอย่างแข็งขัน เพื่อพระประสงค์อันทรงอธิปไตยของพระองค์เอง
ประเด็นนี้มักทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความดีงามของพระเจ้า ซึ่งเป็นคำถามที่น่าอึดอัด แต่คำถามทำนองนี้ก็เป็นประโยชน์ ไม่ใช่แค่ระหว่างเรากับคนอื่น แม้แต่บรรดาพี่น้องที่ซื่อสัตย์ตลอดประวัติศาสตร์คริสตจักรก็ได้รับประโยชน์ ผู้เชื่อกลุ่มพิวริตันคนหนึ่งที่สามารถช่วยเราได้ โทมัส วัตสันเน้นในโรม 8:28 ที่ว่า "เรารู้ว่าในทุกๆ สิ่งพระเจ้าทรงทำให้เกิดผลดีแก่บรรดาผู้ที่รักพระองค์ คือผู้ที่ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์" (โรม 8:28) เขาใช้ข้อนี้เป็นหน้าต่างที่มองเข้าไปในการทำงานของพระเจ้า
ในบทที่มีชื่อว่า "สิ่งเลวร้ายที่สุดก็ทำงานให้เกิดผลดีต่อผู้ที่อยู่ในทางพระเจ้า" (The worst things work for good to the godly) วัตสันเขียนว่า
อย่าเข้าใจผมผิด ผมไม่ได้บอกว่า ตามธรรมชาติแล้ว สิ่งที่เลวร้ายที่สุดนั้นดีในตัวมันเอง เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นผลมาจากคำสาป แต่แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะชั่วร้ายโดยธรรมชาติ แต่พระหัตถ์ของพระเจ้าที่ปกครองอย่างชาญฉลาด... ได้ทรงปรับแต่งสิ่งเหล่านั้น จนพวกมันทำงานร่วมกันอย่างประสานกลมกลืนเพื่อความดีของจักรวาล
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความชั่วร้ายทุกอย่างในโลกนี้ยังคงเป็นความชั่วร้ายอย่างแท้จริง วัตสันไม่ได้บอกว่าความชั่วร้ายไม่ใช่ความชั่วร้ายอีกต่อไป การวางระเบิดเป็นสิ่งชั่วร้าย โรคมะเร็งเป็นสิ่งชั่วร้าย โรคระบาดเป็นสิ่งชั่วร้าย เราร่ำไห้เพราะสิ่งเหล่านี้ แต่แม้ในช่วงเวลามืดมนและน่าพิศวงที่สุด พระเจ้าก็ทรงทำงานด้วยอำนาจอธิปไตย จนแม้การกระทำชั่วร้ายที่สุดก็ต้องช่วยส่งเสริมแผนการทรงอธิปไตยของพระองค์ในจักรวาลในที่สุด
ในพระธรรมปฐมกาล โยเซฟประสบกับความชั่วร้ายหลายสิบปี เขาถูกขายเป็นทาส ถูกใส่ร้าย ถูกทอดทิ้ง ถูกลืม ถูกทารุณ และถูกดูถูก แต่เมื่อสิ้นชีวิต เขาบอกพี่ชายว่า "พวกท่านมุ่งร้ายต่อเราก็จริง แต่พระเจ้าทรงประสงค์ให้เกิดผลดีดังที่เป็นอยู่นี้ คือการช่วยชีวิตคนเป็นอันมากไว้ได้" (ปฐมกาล 50:20 เน้นความโดยผู้เขียน) สังเกตคำว่า มุ่งร้าย หากส่วนใหญ่ของเราเขียนข้อนี้ เราอาจจะเขียนว่า "พวกท่านมุ่งร้ายต่อเราก็จริง แต่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดผลดี " แต่โยเซฟไม่ได้พูดแบบนั้น แต่พระเจ้าทรงประสงค์ (คือมุ่งมั่น ตั้งใจ วางแผน มีพระประสงค์) ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น และพระองค์ไม่ได้เพียงแค่อนุญาตยอมให้เกิดแล้วเสียใจ แล้วพระประสงค์ของพระองค์ในการตั้งใจให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นคืออะไร? ความดีจะมาจากความชั่วร้ายได้อย่างไร? พระเจ้าทรงมีแผนการอย่างไรในการกำหนดให้มีความชั่วร้ายในโลก? ความชั่วร้ายดังกล่าวสร้างอะไรขึ้นในจิตใจของผู้รับใช้ของพระคริสต์?
พระเจ้าทรงจัดระเบียบและออกแบบชีวิตของเราในลักษณะที่ทำให้เราเหมือนพระบุตรของพระองค์มากที่สุด และนำพระเกียรติมาสู่พระนามของพระองค์มากที่สุด โทมัส วัตสันให้ภาพเบื้องต้นว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร
บาปและความชั่วร้ายทำงานเพื่อความดี เพราะพระเจ้าทรงออกแบบให้สิ่งเหล่านั้นสอนเราว่า ในใจของเราเองมีอะไร
วัตสันเขียนว่า "พระเจ้าทรงทำให้เรารู้จักความทุกข์ยาก เพื่อให้เรารู้จักตัวเราเองได้ดีขึ้น" กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความทุกข์ยากช่วยให้เราเห็นว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของเราไม่ได้อยู่ภายนอกตัวเรา แต่อยู่ภายในตัวเรา ความทุกข์ยากดึงสิ่งต่างๆ ออกมาจากตัวเรา ซึ่งความสุขสบายและความสงบไม่เคยทำได้
พระเจ้าทรงออกแบบวันเวลาของเราเพื่อแสดงให้เราเห็นว่าเราต้องการพระองค์อย่างยิ่ง
บาปและความชั่วร้ายทำให้เกิดผลดี เพราะสิ่งเหล่านั้นทำให้เราเหมือนพระคริสต์
วัตสันเขียนว่า "คทาของพระเจ้าเป็นดินสอที่วาดพระฉายของพระคริสต์บนตัวเราให้ชัดเจนขึ้น เป็นการดีที่จะมีความสมมาตรอย่างได้สัดส่วนระหว่างพระเศียรและอวัยวะต่างๆ" กล่าวอีกนัยหนึ่ง เป้าหมายของพระเจ้าในความทุกข์ยากไม่ใช่การเปลี่ยนสถานการณ์ของเรา แต่เปลี่ยนเราผ่านสถานการณ์ของเรา ให้เป็นเหมือนพระฉายของพระบุตรของพระองค์
บาปและความชั่วร้ายทำงานเพื่อความดี เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นวิธีของพระเจ้า
ในการคลายใจของเราจากโลก
เมื่อคุณขุดดินออกจากรากต้นไม้ ก็เพื่อทำให้ต้นไม้หลุดจากดิน พระเจ้าจึงทรงขุดความสุขสบายในโลกของเราออกไป เพื่อคลายใจของเราจากโลก~ โทมัส วัตสัน
เราเห็นสิ่งนี้ในชีวิตของเรา ไม่ใช่หรือ? ความทุกข์ยากส่งผลให้เราแยกห่างจากจากความสุขที่น้อยกว่า และยึดตรึงความรักของเราไว้กับความสุขที่ไม่มีที่สิ้นสุด
วัตสันช่วยให้เราเข้าใจว่าหลักคำสอนเรื่องอำนาจอธิปไตยของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องเย็นชาและปราศจากความรัก แต่เป็นใบสั่งยาที่เต็มไปด้วยความรักของแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เขาอธิบายว่า
พระเจ้าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทรงทราบว่าอะไรดีที่สุด... พระองค์มีการทดสอบสำหรับคนที่แข็งแกร่ง และมียาบำรุงสำหรับคนที่อ่อนแอ พระเจ้าเป็นแพทย์ที่ซื่อสัตย์ ดังนั้นจะทรงทำให้ทุกอย่างดีที่สุด หากพระเจ้าไม่ทรงประทานสิ่งที่คุณชอบ พระองค์จะทรงประทานสิ่งที่คุณต้องการ แพทย์ไม่ได้คิดที่จะเอาใจคนไข้เท่านั้น แต่ทำเพื่อรักษาโรคของเขา เราบ่นว่าการทดสอบที่เจ็บปวดมากมายตกอยู่กับเรา ให้เราจำไว้ว่าพระเจ้าเป็นแพทย์ของเรา ดังนั้นพระองค์จึงทรงพยายามรักษาเรามากกว่าที่จะเอาใจเรา วิธีที่พระเจ้าทรงจัดการบรรดาบุตรของพระองค์นั้น แม้จะเจ็บแสบ แต่ก็ทำให้บรรดาบุตรปลอดภัย และทำไปเพื่อการรักษา "เพื่อจะเป็นผลดีแก่ท่านในบั้นปลาย" (เฉลยธรรมบัญญัติ 8:16)
วัตสันบอกว่า เหตุผลที่เราเผชิญการทดสอบไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะพระเจ้าทรงยกมือขึ้นและยอมให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น แต่ในฐานะแพทย์ของเรา พระองค์ได้ทรงสั่งจ่ายยาและกำหนดสิ่งเหล่านั้นด้วยพระคุณ เพื่อขจัดความเสื่อมทรามที่เหลืออยู่ในใจของเรา
การทดสอบคือยาอันทรงอธิปไตยที่หล่อหลอมเราให้เป็นเหมือนพระฉายของพระคริสต์
ไม่มีช่วงเวลาหรือระยะทางบนโลกใบนี้ที่ไม่อยู่ในพระหัตถ์ทรงอธิปไตยของพระเจ้า ดังนั้นเราจึงวางใจได้ว่าพระองค์ทรงทราบความเจ็บปวดของเรา และยิ่งไปกว่านั้น ความทุกข์ทรมานของเราไม่ใช่เรื่องไร้ความหมาย พระองค์เป็นแพทย์ผู้ใจดีและเปี่ยมรัก พระองค์กำลังรักษาความอ่อนแอของใจเรา บางครั้งยาและขั้นตอนการรักษาอาจเจ็บปวด แต่ก็มีขึ้นเพื่อเหตุผลที่ดีเสมอ พระเจ้าทรงทำกิจเพื่อให้เกิดผลดีกับเรา "เพราะความทุกข์ลำบากเล็กๆ น้อยๆ เพียงชั่วคราวของเราทำให้เราได้รับศักดิ์ศรีนิรันดร์ ซึ่งเหนือกว่าสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดมากมายนัก" (2 โครินธ์ 4:17)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ผู้เขียน
เจอรอด กิลเชอร์ (Jerod Gilcher) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจาก The Master's Seminary และปัจจุบันดำรงตำแหน่งศิษยาภิบาลหลักที่คริสตจักรไครสต์คอมมูนิตี้ไบเบิล (Christ Community Bible Church) ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Copyright: บทความเรื่อง "พระเจ้าผู้ทรงอำนาจอธิปไตยสูงสุดและดีงาม ยอมให้เกิดความทุกข์ทรมานได้อย่างไร?" โดย "เจอรอด กิลเชอร์" ต้นฉบับเผยแพร่เป็นภาษาไทยโดย เกรซ บรรณสาร ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.Gracebannasan.com
Original Article in English can be found at: https://blog.tms.edu/how-could-a-sovereign-good-god-allow-suffering
.png)



ความคิดเห็น